ข้อควรระวังอันตรายจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์ ที่คุณควรรู้

ข้อควรระวังอันตรายจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์ ที่คุณควรรู้
หากคุณไม่อยากให้เกิดอันตรายระหว่างการทำงาน ควรจะรู้วิธีใช้รถโฟล์คลิฟท์ที่ถูกต้องมากที่สุด และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำการตรวจสอบรถโฟล์คลิฟท์ ตามกฎหมายกำหนดอย่างสม่ำเสมอ โดยต่อจากนี้เราจะแนะนำ 4 ข้อควรระวังของการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ที่หลายต่อหลายคนมักมองข้าม จนเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน
1.ห้ามใช้งานรถโฟล์คลิฟท์เกินกำลังโดยเด็ดขาด
สำหรับวิธีใช้รถโฟล์คลิฟท์ให้ปลอดภัยวิธีแรก เป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากของความปลอดภัยของการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ ในรถโฟล์คลิฟท์ทุกคันจะมีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่ารับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ ยกได้สูงที่สุดเป็นความสูงเท่าไหร่ ซึ่งนั่นคือขีดจำกัดของรถโฟล์คลิฟท์คันนั้น ๆ ซึ่งไม่ควรจะฝืนทำอะไรที่เกินกว่าที่กำหนดเอาไว้เด็ดขาด
2.ระหว่างการยกห้ามมีผู้ใดยืนใต้งายก
สำหรับวิธีใช้รถโฟล์คลิฟท์ข้อถัดมา เป็นสิ่งที่นอกจากผู้ใช้งานแล้ว ผู้ที่อยู่รอบข้างเองก็จะต้องระมัดระวังด้วยเช่นเดียวกัน ระหว่างการยกวัตถุต่าง ๆ จะต้องห้ามให้มีบุคคลใดก็ตามอยู่ใต้งายกโดยเด็ดขาด โดยหากจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้ายก็ควรจะให้งายกอยู่ในระดับ 30-40 เซนติเมตรก่อน จึงจะปลอดภัยมากที่สุด
3.“รถโฟล์คลิฟท์” ไม่ใช่ “ลิฟต์” ห้ามใช้ทดแทนกัน
เป็นอีกหนึ่งวิธีใช้รถโฟล์คลิฟท์ผิด ๆ ที่สามารถพบได้บ่อย หลายต่อหลายครั้งที่เราจะเห็นการนำ “รถโฟล์คลิฟท์” มาใช้เป็น “ลิฟต์” ถึงชื่อจะคล้ายกันแต่ทำงานแทนกันไม่ได้ มีหลายกรณีที่มีการใช้รถโฟล์คลิฟท์เพื่อยกคนขึ้นไปทำงานในพื้นที่สูง เช่นทางสีอาคาร เปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งเป็นการใช้งานที่เสี่ยงเป็นอย่างมาก ห้ามทำโดยเด็ดขาด
4.ห้ามละเลยสัญญาณเตือนต่าง ๆ
หลาย ๆ ครั้งอันตรายจากการใช้รถโฟล์คลิฟท์ มักจะเกิดขึ้นจากการละเลยเรื่องเล็ก ๆ ยกตัวอย่างเช่น สัญญาณเตือนไฟกะพริบ และเสียงเตือนขณะขับถอยหลัง โดยเฉพาะรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่เสียงจะเงียบมาก ถ้าไม่มีสัญญาณเตือน อาจจะทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างไม่ทราบว่ารถโฟล์คลิฟท์กำลังทำงานอยู่ในบริเวณนั้น หลังจากเกิดอุบัติเหตุคำว่า “มองไม่เห็น” มักเป็นคำที่ผู้ประสบเหตุมักจะพูดอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นแล้วควรรักษาสภาพของรถโฟล์คลิฟท์ให้พร้อมใช้งาน 100%